วังน้ำเขียว สวิตส์เซอร์แลนด์แดนอีสาน - วันที่ 1 (ขาไป)

เริ่มต้นการเดินทางอันแสนทรหด

ระยะทางโดยรวมก็ 400 กิโลเมตรนิดๆ เท่านั้นเอง! -_-"

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 7 โมงครึ่ง

ไปถึงที่วังน้ำเขียวอย่างทุลักทุเลตอน 11 โมงครึ่ง...

งานนี้้ต้องขอขอบคุณ... หนังสือ "แผนที่และคู่มือเที่ยวไทย '53"

และ GPS หลากหลาย brand อันได้แก่...

"GarminMobileXT, Nokia Ovi Maps, และ Google Maps"

(ทั้งหมดคือ program GPS ที่ถูก Install ลงในเครื่อง Nokia E75 ของผมเอง)

ที่ช่วยให้การเดินทางครั้งนี้ราบรื่น ไร้อุปสรรคใดๆ จนมาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ :D

...

resort ที่ได้ทำการจองเอาไว้คือ... "บ้านไอดิน"

ทางเข้าหาไม่ยาก เพราะมีแผนที่บอกเอาไว้อย่างละเอียด เข้าได้ง่ายมากๆ

แต่หน้าปากซอยทางเข้าดันเป็นตลาดของฝาก

ทำให้มีรถจอดเยอะมาก และพื้นถนนเริ่มเสียแล้ว -_-"

บ้านไอดิน มีบ้านพักจำนวน 4 หลัง

แบ่งเป็นบ้านดิน (ทำมาจากดินตรงที่ดินบริเวณนั้นเลย) 3 หลัง

และบ้านชมดาว 1 หลัง

(ชื่อบ้านชมดาวอาจจะเพราะมีระเบียงเอาไว้ให้มองดาวจริงๆ...)

 

 

สถานที่สำหรับ CheckIn ของที่นี่คือร้านกาแฟชื่อ "หอกรุ่นกาแฟ"

เป็นร้านกาแฟที่น่ารักมาก มี 2 ชั้น ชั้นบนลมโกรกอากาศดีสุดๆ

ผมแอบไปจับจองมุมโปรดมาแวบนึงด้วย :D

จัดแจงโยนสัมภาระเข้าบ้านพักแล้วก็เริ่มตะลุยวังน้ำเขียวทันที!

ที่แรกที่จะไปก็คือ "น้ำตกสวนห้อม"

แต่ "น้ำตกสวนห้อม" อยู่ใกลักับ "น้ำตกห้วยใหญ่" มาก

เลยไปมันพร้อมกันเนี่ยแหละ :D

เราตัดสินใจไปน้ำตกห้วยใหญ่ก่อน

แต่!

อุปสรรคที่ 1 บังเกิด...

ทางเข้าน้ำตกห้วยใหญ่ ยังคงเป็นดินลูกลัง ทางลาดชัน และเป็นถนนเลนเดียว

โหดร้ายเอาเรื่องที่จะพาน้องริบบิ้นไปตกระกำลำบาก

เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผน มันไปมันล่ะ...

ไปน้ำตกสวนห้อมแทนดีกว่า... :D

อุปสรรคที่ 2 บังเกิดอีกครา...

ทางเข้าน้ำตกสวนห้อม ก็ยังคงเป็นดินลูกลัง ทางลาดชัน และเป็นถนนเลนเดียว

เฮ้อ... สงสัยคงต้องตัดใจ

ว่าแล้วก็ไล่ตระเวณหาที่เที่ยวแห่งใหม่...

นึกขึ้นได้ว่า ที่วังน้ำเขียวมีไร่องุ่นผลิตไวน์ไทยที่แพงที่สุดในประเทศอยู่

ไร่นั้นชื่อว่า...

"Village Farm & Winerary"

 

 องุ่นเพียบ! น้ำองุ่นอร่อย และไวน์แพงสมชื่อ

ราคาไวน์ที่นี่มีตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไปเลยครับ

น่าจะเดาได้ไม่ยาก ว่าราคานั้นขึ้นอยู่กับปีที่หมัก

ยิ่งหมักนานยิ่งแพงมาก

ขวดที่แพงที่สุดนี่ราคา 3500 บาทเห็นจะได้... :D

(ผมได้ไวน์กลับมาฝากปะป๊ากับแม่ 2 ขวด เป็นไวน์ขาวกับไวน์แดงแบบ Gift Set

และน้ำองุ่นสำหรับฝากเพื่อนๆอีก 1 ลัง)

ออกจาก Village Farm & Winery แล้วหิวข้าวสุดๆ
เลยแวะร้านอาหารแนะนำของที่นี่ชื่อร้าน "ปลาเผาสลัดได"

เป็นร้านอาหารทั่วไป แต่ตกแต่งน่ารักมาก มีอะไรให้เดินดูเยอะ และมุมขายของแปลกๆแนวๆ
(เหมาะกับเด็กแนวอย่างผม :D)

อาหารรสชาติใช้ได้ แต่เนื่องจากเราเดินทาง + เที่ยวกันมาเยอะ
เลยทานกันแทบจะไม่หมด (แต่ก็หมดไป 2 จานนะ ^^")

5 โมงเย็นแล้วครับ ได้เวลากลับ resort ไปพักเสียที
ขอปิดท้ายด้วยรูปที่ถ่ายตอนเริ่มมืดนิดหน่อยใน resort แล้วกันนะ :D

วันพรุ่งนี้เป็นขากลับแล้วครับ
คาดว่าคงได้เพิ่งหนังสือและ GPS อีกเช่นเคย :D
สำหรับคืนนี้... Good Night จ้า

[PS. รูปภาพการเดินทางทั้งหมดสามารถดูได้ที่ Gallery นะครับ]